ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้าลบในวันนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลงตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ และนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังสิ้นสุดการประชุมในวันนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,369.54 จุด ลดลง 156.41 จุด หรือ -0.41%
ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิร่วงลงไปกว่า 500 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า หาก BOJ ขึ้นดอกเบี้ยจริง จะทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทส่งออกเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปิดเช้าบวกจากการคาดการณ์ว่า หากดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ก็จะช่วยให้ธนาคารทำเงินจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า BOJ กำลังพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับใกล้ศูนย์เป็น 0.25% ในการประชุมวันนี้
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ มองว่า โอกาสที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ยังคงอยู่ที่ 50-50
อิชิกาวะเสริมว่า สิ่งที่นักลงทุนจับตามองคือ BOJ จะลดการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงมากน้อยเพียงใด และ BOJ จะยังคงใช้วาทกรรมในรายงานมุมมองเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่านโยบายการเงินที่เกื้อหนุนจะยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่งหรือไม่
"นอกจากความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว หาก BOJ ตัดสินใจลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ และมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำในรายงานมุมมองเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นก็อาจปรับตัวลงได้อีก" อิชิกาวะกล่าว