ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงิน ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และบ่งชี้ถึงความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,283.36 จุด ลดลง 84.62 จุด หรือ -1.01% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 6.1% ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 หลังธนาคารโซซิเอเต้ เจเนเรลของฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์รายได้จากอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจลูกค้ารายย่อย
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 5.00% ในการประชุมวันพฤหัสบดี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE กล่าวว่า จะระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากกรรมการ BoE ยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับการลดลงของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมร่วงลง 1.9% หลังราคาทองแดงปรับตัวลง
หุ้นเชลล์ ลดลง 0.5% หลังรายงานกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 2 แต่ลดลง 19% เมื่อเทียบรายไตรมาส
แต่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย และกลุ่มทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้น 0.5% สวนทางตลาด
หุ้นกลุ่มอวกาศการบินและการป้องกันประเทศ บวก 1.3% หลังหุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรและกระแสเงินสด