ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทรุดตัวลงกว่า 300 จุด ส่งสัญญาณการปรับตัวลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่ดิ่งลงวานนี้
ณ เวลา 18.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 356 จุด หรือ 0.88% สู่ระดับ 40,158 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ดิ่งลงเกือบ 500 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอ รวมทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2566 จากระดับ 48.5 ในเดือนมิ.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.8
ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากภาวะหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 249,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย
นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 33,000 ราย สู่ระดับ 1.88 ล้านราย และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.86 ล้านราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1%