ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันจันทร์ (5 ส.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกพากันเทขายหุ้นออกมา หลังจากมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,008.23 จุด ลดลง 166.48 จุด หรือ -2.04% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.และปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานชะลอตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และทำให้มีการคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือนก.ย.
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคด้านประปา ร่วง 4.0% หลังบาร์เคลย์สปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้นเซเวิร์น เทรนท์ และหุ้นเพนนอน
ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันด้วย และฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 3.2%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่า ร่วงลง 3.3% ตามราคาทองที่ร่วงลง