ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากรองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า BOJ จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตลาดการเงินยังไร้เสถียรภาพ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,464.61 จุด พุ่งขึ้น 789.15 จุด หรือ +2.28%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,864.92 จุด เพิ่มขึ้น 217.58 จุด หรือ +1.31% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,876.17 จุด เพิ่มขึ้น 8.88 จุด หรือ +0.31%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ พุ่งขึ้นกว่า 2.5% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.5%
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นหลังจากนายชินอิจิ อุจิดะ รองผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยในวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า BOJ จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบันเพื่อดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในขณะที่ตลาดการเงินยังไร้เสถียรภาพ
นายอุจิดะยังกล่าวด้วยว่า การอ่อนค่าของเงินเยนที่หยุดชะงักไปในช่วงที่ผ่านมา ได้ลดความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 300 จุดในวันอังคาร (6 ส.ค.) เนื่องจากการแสดงความเห็นเชิงบวกของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายไม่เห็นด้วยกับมุมมองที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดนั้นหมายถึงเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เฟดได้สนับสนุนให้คณะกรรมการเฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ดังกล่าว
สำหรับข้อมูลการค้าจีนที่มีการรายงานในวันนี้ สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่ายอดส่งออกเดือนก.ค.ของจีนขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดส่งออกจะชะลอตัวลงอีกในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากผลกระทบของการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU)
ทั้งนี้ ยอดส่งออกปรับตัวขึ้นเพียง 7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 3.0056 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ Wind ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงินของจีน คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 9.5% และต่ำกว่าในเดือนมิ.ย.ที่มีการขยายตัว 8.6%
ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 7.2% ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% และสวนทางกับในเดือนมิ.ย.ที่ยอดนำเข้าของจีนปรับตัวลดลง 2.3%
รายงานของ GAC ระบุว่า จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ค.อยู่ที่ 8.465 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่มียอดเกินดุลการค้า 9.905 หมื่นล้านดอลลาร์