ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไร ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นวานนี้
ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,367.79 จุด ลบ 78.70 จุด หรือ 0.2%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวอย่างผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด ต่อมาดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อวันอังคาร และร่วงลงกว่า 200 จุดในวันพุธ ก่อนที่จะทะยานขึ้นเกือบ 700 จุดวานนี้ ขานรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป หลังทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์นี้ แต่การดีดตัวขึ้นจะไม่มีลักษณะเป็นรูปเส้นตรง
"ตลาดจะแกว่งตัวจากระดับปัจจุบัน แต่จะปรับตัวสูงขึ้น และเราคาดว่าแรงกดดันในตลาดจะไม่หายไปในชั่วข้ามคืน แต่จะไม่รุนแรงเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.2551 (วิกฤตซับไพร์ม) และเดือนมี.ค.2563 (โควิด-19 ระบาด)" รายงานระบุ
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 ส.ค.เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้