ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (12 ส.ค.) ขณะนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้นโยบายการเงินท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปจำนวนมาก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 499.08 จุด ลดลง 0.11 จุด หรือ -0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,250.67 จุด ลดลง 19.04 จุด หรือ -0.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,726.47 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด หรือ +0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,210.25 จุด เพิ่มขึ้น 42.15 จุด หรือ +0.52%
หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันและโลหะ ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 0.9%
หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้น ฮันโนเวอร์ รี ซึ่งเป็นบริษัทประกันของเยอรมนี พุ่งขึ้น 5% หลังรายงานผลประกอบการดีเกินคาด
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลการจ้างงานและจีดีพีของยุโรปในสัปดาห์นี้
นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา
เฟดจะประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 18-19 ก.ย. และเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 46% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
สำหรับปริมาณการซื้อขายในตลาดยุโรปในเดือนส.ค.นั้นคาดว่าจะลดต่ำลง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากหยุดพักการซื้อขายในช่วงฤดูร้อน