ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (13 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกัน ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษและสหรัฐเพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,235.23 จุด เพิ่มขึ้น 24.98 จุด หรือ +0.30%
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และหุ้นส่วนใหญ่ทะยานขึ้น โดยกลุ่มประกันชีวิตและประกันวินาศภัยปรับตัวขึ้นนำตลาด หลังหุ้นจัสต์ กรุ๊ป (Just Group) พุ่งขึ้น 14.5% หลังคาดการณ์ผลกำไรปีนี้สูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ ปรับตัวขึ้น 1.1% ขณะที่กลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ปรับตัวลง และกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 0.6% หลังจากราคาทองแดงลดลงจากแรงขายทำกำไร
ข้อมูลของอังกฤษบ่งชี้ว่า การขยายตัวของค่าจ้างเฉลี่ยชะลอลงและอัตราการว่างงานลดลงเกินคาด ซึ่งหนุนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ดาเนียลา ฮาธอร์น นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของแคปิตอล.คอม ระบุว่า การขยายตัวของค่าแรงที่เพิ่มขึ้นจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในการประชุมครั้งหน้า และมีแนวโน้มที่อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปในเดือนพ.ย.
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษและสหรัฐในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)