ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงในวันนี้ (19 ส.ค.) หลังจากดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยเงินเยนที่แข็งค่ากระตุ้นให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มส่งออก เนื่องจากกังวลว่าหุ้นกลุ่มส่งออกจะได้กำไรน้อยลงเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,388.62 จุด ลดลง 674.05 จุด หรือ -1.77%
หุ้นลบนำตลาด ได้แก่ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเกือบ 3 เยน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 145 เยน นักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลมาจากความกังวลว่า ข้อมูลแรงงานสหรัฐอาจถูกปรับลดลงในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะยิ่งบดบังแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐให้มืดมนลงไปอีก
ขณะเดียวกัน เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นจากข่าวบริษัท เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ (Seven & i holdings) เจ้าของร้านสะดวกซื้อ "เซเว่น อีเลฟเว่น" (7-Eleven) ในญี่ปุ่น ได้รับข้อเสนอเทคโอเวอร์เบื้องต้นจาก "อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์" (Alimentation Couche-Tard) เชนร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่จากแคนาดา ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีความต้องการใช้เงินเยนเพิ่มขึ้น
นายยูกิโอะ อิชิซูกิ นักกลยุทธ์อาวุโสด้านอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทหลักทรัพย์ไดวะ ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า "หากดีลดังกล่าวเกิดขึ้นจริง คาดว่าจะนำไปสู่การซื้อเงินเยนจำนวนมหาศาล" โดยคาดว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านเยน (3.4 หมื่นล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่า กระแสคาดการณ์ว่าข้อมูลแรงงานสหรัฐอาจถูกปรับลดลงอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นในการประชุมเดือนหน้า และอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐแคบลง