ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 100 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ ตลาดจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30-31 ก.ค.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ รวมทั้งการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,756.20 จุด บวก 96.44 จุด หรือ 0.24%
การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 22-24 ส.ค. ในหัวข้อ "Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy" โดยมีธนาคารกลางสหรัฐสาขาแคนซัส ซิตี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นายพาวเวลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดว่าถ้อยแถลงของนายพาวเวลในปีนี้จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น หลังจากที่นักลงทุนพากันตื่นตระหนกเทขายหุ้นจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลในปี 2565 และ 2566
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ปัญหาของเฟดในขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.หรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเท่าใด และนักลงทุนหวังว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในวันศุกร์นี้
ก่อนหน้านี้ วาทะของนายพาวเวลในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้สร้างความปั่นป่วนต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
โดยในการประชุมปี 2565 นายพาวเวลสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด ด้วยการกล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% พร้อมกับเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนในปี 2566 นายพาวเวลย้ำเตือนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป
นักลงทุนเทน้ำหนัก 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
หากเฟดลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ตามคาด จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยแบ่งเป็นให้น้ำหนัก 73.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนัก 26.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในเดือนดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี