ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (20 ส.ค.) หลังบวกติดต่อกัน 5 วัน โดยหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลง ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและรอดูการประชุมธนาคารกลางที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิงของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 512.27 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.45%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,485.73 จุด ลดลง 16.28 จุด หรือ -0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,357.52 จุด ลดลง 64.17 จุด หรือ -0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,273.32 จุด ลดลง 83.62 จุด หรือ -1.00%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่เข้าทดสอบในช่วงเช้า โดยตลาดหุ้นทั้งหมดในยุโรปปรับตัวลงสู่แดนลบ
การร่วงลงของราคาน้ำมันฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานลง 2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์
ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในสิ้นปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้นักวิเคราะห์ระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปก็ตาม
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นกว่า 7% แล้วในปีนี้
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจในขณะนี้ไปที่การเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ และความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในการประชุมแจ็กสันโฮลในวันศุกร์นี้ ซึ่งการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะเป็นแรงหนุนครั้งใหม่ต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราและกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด
ธนาคารกลางสวีเดนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามคาด และระบุว่าอาจเร่งผ่อนคลายนโยบายการเงิน หากแรงกดดันด้านราคาไม่เพิ่มขึ้น โดยอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 3 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปนั้น เยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย