ดัชนีดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
ณ เวลา 00.03 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,683.59 จุด ลบ 206.90 จุด หรือ 0.51%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 54.3 ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว
ทั้งนี้ การจ้างงานลดลงทั้งในภาคการผลิตและบริการ ส่วนคำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิตร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 แต่คำสั่งซื้อใหม่ของภาคบริการพุ่งขึ้นในเดือนส.ค. ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 49.6 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.0 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 22-24 ส.ค. ในหัวข้อ "Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy" โดยมีธนาคารกลางสหรัฐสาขาแคนซัส ซิตี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
นักวิเคราะห์คาดว่าถ้อยแถลงของนายพาวเวลในปีนี้จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น หลังจากที่นักลงทุนพากันตื่นตระหนกจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลในปี 2565 และ 2566
ในการประชุมปี 2565 นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% พร้อมกับเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนในปี 2566 นายพาวเวลย้ำเตือนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป