ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (22 ส.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มค้าปลีกนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนขานรับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่ และรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 515.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.79 จุด หรือ +0.35%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,524.11 จุด ลดลง 0.61 จุด หรือ -0.01%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,493.39 จุด เพิ่มขึ้น 44.44 จุด หรือ +0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,288.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.57 จุด หรือ +0.06%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 และปิดที่ระดับสูงสุดในเดือนนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกได้แรงหนุนจากหุ้นเจดี สปอร์ต บริษัทขายชุดกีฬาจากอังกฤษ ที่พุ่งขึ้น 11% หลังรายงานการขยายตัวของยอดขายดีขึ้นในไตรมาส 2
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 2.4%
ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย.นั้น หากเกิดขึ้นจริง ก็อาจจะเป็นแรงหนุนครั้งใหม่ให้กับบรรดาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
รายงานการประชุมเดือนก.ค.ของ ECB บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่บ่งชี้ถึงการหารือครั้งใหม่ในเดือนก.ย. เนื่องจากมีความกังวลกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
การเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนส.ค.นั้น อาจทำให้นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง
บรรดานักลงทุนรอฟังการแสดงความเห็นของผู้กำหนดนโยบายในการประชุมที่แจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในสัปดาห์นี้ โดยคาดหวังว่าเฟดจะเริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้