ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ส่งสัญญาณการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในคืนนี้ หลังร่วงลงวานนี้
ณ เวลา 18.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 220 จุด หรือ 0.53% สู่ระดับ 41,398 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.39% วานนี้ ก่อนการรายงานผลประกอบการของบริษัท Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ
ราคาหุ้น Nvidia ดิ่งลงเกือบ 4% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3 ที่สดใส
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การดิ่งลงของหุ้น Nvidia เกิดจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการซึ่งได้ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับหลายไตรมาสที่ผ่านมา รวมทั้งความล่าช้าในการเปิดตัว Blackwell ซึ่งเป็นชิป AI รุ่นใหม่
นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเทขายหุ้น Nvidia เพื่อทำกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้นกว่า 150% นับตั้งแต่ต้นปี 2567
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. จากระดับ 0.1% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนมิ.ย.