ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,709.88 จุด เพิ่มขึ้น 62.13 จุด หรือ +0.16%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,824.50 จุด ลดลง 17.71 จุด หรือ -0.62% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,670.72 จุด ลดลง 318.35 จุด หรือ -1.77%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.27%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (31 ส.ค.) ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิต ลดลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนส.ค. จากระดับ 49.4 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 49.5
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตจีนของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 4
อย่างไรก็ดี ไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (2 ก.ย.) ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.0