ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าทรุดตัวลงกว่า 3% ในวันนี้ (4 ก.ย.) โดยในช่วงหนึ่งร่วงลงไปถึงมากกว่า 4% โดยได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอกว่าคาดของสหรัฐฯ เมื่อคืนวานนี้ รวมถึงการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 37,405.59 จุด ลดลง 1,280.72 จุด หรือ -3.31%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเผชิญแรงเทขายในช่วงเช้า นำโดยหุ้นกลุ่มชิป เช่น โตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) และแอดวานเทสต์ (Advantest) ซึ่งปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้
ดัชนีนิกเกอิร่วงลงกว่า 1,500 จุดในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ออกมาต่ำกว่าที่คาด จุดชนวนความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
โคอิจิ ฟูจิชิโระ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสถาบันวิจัยไดอิจิไลฟ์กล่าวว่า "ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกำลังชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้นในการรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านภาคบริการและการจ้างงานที่จะประกาศในสัปดาห์นี้"
ฟูจิชิโระเสริมว่า ตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวกำหนดขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมปลายเดือนนี้ ว่าจะลดลง 0.25% หรือ 0.50%