ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้ (4 ก.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงอย่างหนักในวันอังคาร (3 ก.ย.) หลังจากหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ร่วงลง และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 37,405.59 จุด ลดลง 1,280.72 จุด หรือ -3.31% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,789.39 จุด ลดลง 13.59 จุด หรือ -0.48% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,462.25 จุด ลดลง 189.24 จุด หรือ -1.07%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดิ่งลง 2.17% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.70%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.2 จากระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566
อย่างไรก็ดี ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 47.5 นอกจากนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
หุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ปิดตลาดร่วงลง 9.53% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร และได้ฉุดหุ้นบริษัทผลิตชิปในเอเชียดิ่งลงในช่วงเช้านี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) ร่วงลง 7.04% หุ้นแอดวานเทสต์ (Advantest) ดิ่งลง 7.7% และหุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) ดิ่งลง 3.56%
ออสเตรเลียเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 ขยายตัวเพียง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.3% ส่งผลให้ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้