ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ในวันนี้ (6 ก.ย.) และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่นักลงทุนต่างทำการซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนการประกาศตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ คืนนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,391.47 จุด ลดลง 265.62 จุด หรือ -0.72% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มเครื่องจักร, กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
นิกเกอิปรับตัวผันผวนมาตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ โดยนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงมากกว่า 2,000 จุดในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ดัชนีก็ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลดลงตามทิศทางดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกก็ได้รับผลกระทบจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้กำไรจากต่างประเทศลดลงเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยน
นักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนส.ค. เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย
"บรรยากาศการลงทุนค่อนข้างตึงเครียดก่อนการประกาศตัวเลข...วันนี้อาจเป็นเพียงความสงบก่อนเกิดพายุ" คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว ตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ได้จุดชนวนความกังวลว่า เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง โดยนิกเกอิร่วงลงหนักสุด (เมื่อนับเป็นจุด) เป็นประวัติการณ์ภายในวันเดียว
คามิทานิชี้ว่า หากตัวเลขจ้างงานที่ประกาศออกมานั้นต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก "ก็มีแนวโน้มว่าจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเงินเยน" ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นในตลาดตามมาได้
นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ จะเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือนนี้