ดาวโจนส์ร้อนแรง ล่าสุดทะยานกว่า 600 จุด ซื้อเก็งกำไรหนุนตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 10, 2024 00:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 600 จุดจากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนักในวันศุกร์

ณ เวลา 23.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,969.86 จุด บวก 624.45 จุด หรือ 1.55%

ราคาหุ้นของบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ ร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ก่อนการเปิดตัว iPhone 16 ในคืนนี้

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 400 จุดในวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 164,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.สู่ระดับ 89,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 114,000 ตำแหน่ง

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงกว่า 10% ต่ำกว่าระดับ 20 บ่งชี้ว่านักลงทุนคลายความกังวล ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี

ผลการสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก พบว่า คาดการณ์เงินเฟ้อในเดือนส.ค.ของผู้บริโภคในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 3.0% ไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ในเดือนก.ค.

ส่วนคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคในระยะเวลา 5 ปี อยู่ที่ระดับ 2.8% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค.

อย่างไรก็ดี คาดการณ์เงินเฟ้อในระยะเวลา 3 ปี อยู่ที่ระดับ 2.5% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.3% ในเดือนก.ค.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 17-18 ก.ย.

กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 77% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 70% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในเดือนนี้ ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ