ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (10 ก.ย.) นำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มพลังงาน ขณะที่การขยายตัวของค่าแรงที่ชะลอตัวลงในอังกฤษได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,205.98 จุด ลดลง 64.86 จุด หรือ -0.78%
หุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ ร่วงลง 1.5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยถูกกดดันจากหุ้นแอสตร้าเซนเนก้าที่ร่วงลง 2.4% หลังผลการทดลองยารักษาโรคมะเร็งปอดของบริษัทบ่งชี้ว่า ยาดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้ผลการรักษาผู้ป่วยโดยรวมดีขึ้นอย่างมากแต่อย่างใด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.7% หลังสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 เนื่องจากกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ร่วงลง 2.9% และหุ้นกลุ่มธนาคาร ปรับตัวลง 1.9%
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่า ปรับตัวขึ้น 6.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2565 หลังหุ้นเซนตามิน (Centamin) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำ พุ่งขึ้น 22.9%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสร้างบ้านยังปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การขยายตัวของค่าแรงในอังกฤษชะลอตัวลงในรอบ 3 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนก.ค.สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี และการจ้างงานพุ่งขึ้น
บรรดานักเศรษฐศาสตร์บ่งชี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวจะสนับสนุนให้ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนพ.ย.