ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ถ่วงตลาด ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 508.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด หรือ +0.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,396.83 จุด ลดลง 10.72 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,330.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.35 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,193.94 จุด ลดลง 12.04 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ซึ่งพุ่งขึ้น 16% หลังยูนิเครดิตของอิตาลีเข้าซื้อหุ้น 9% ในคอมเมิร์ซแบงก์ และรัฐบาลเยอรมนีซื้อหุ้นดังกล่าว 4.5% เป็นเงิน 702 ล้านยูโร (775.29 ล้านดอลลาร์)
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิง (ASML Holding) ซึ่งพุ่งขึ้น 3.8% และหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานบวก 0.4% เนื่องจากราคาทองแดงปรับตัวขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 0.8%
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวลง หลังข้อมูลประมาณการ GDP บ่งชี้ว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจของอังกฤษไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนก.ค.
ส่วนข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนส.ค. แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในสัปดาห์หน้า
ตลาดการเงินคาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาส 15% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. ลดลงจากโอกาส 30% ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจในขณะนี้ไปที่การประชุม ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%