ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (12 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 36,605.62 จุด เพิ่มขึ้น 985.85 จุด หรือ +2.77%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,274.72 จุด เพิ่มขึ้น 166.01 จุด หรือ +0.97% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,720.40 จุด ลดลง 1.40 จุด หรือ -0.05%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.41% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.57%
หุ้นบริษัทผลิตชิปในเอเชียพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ ทะยานขึ้น 8% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพุธ (11 ก.ย.) หลังจากเว็บไซต์ข่าวเซมาฟอร์ (Semafor) รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเปิดทางให้บริษัทอินวิเดียสามารถส่งออกชิปที่ทันสมัยให้กับซาอุดีอาระเบีย
สำหรับหุ้นบริษัทผลิตชิปในตลาดหุ้นโตเกียวที่พุ่งขึ้นเช้านี้ หุ้นโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) พุ่งขึ้น 3.56%, หุ้นแอดวานเทสต์ (Advantest) พุ่งขึ้น 7.18% และหุ้นเรเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ (Renesas Electronics) พุ่งขึ้น 2.23%
ส่วนหุ้นบริษัทชิปในตลาดหุ้นเกาหลีใต้นั้น หุ้นเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) และหุ้นซัมซุง อิเลคโทรนิกส์ (Samsung Electronics) พุ่งขึ้นกว่า 6% และ 1% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันพุ่งขึ้นกว่า 3% โดยหุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) พุ่งขึ้น 5.13% และหุ้นฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) พุ่งขึ้น 4.13%