ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 3% ในวันนี้ (12 ก.ย.) โดยพุ่งขึ้นกว่า 3% นับเป็นการปิดบวกครั้งแรกหลังจากที่ปรับตัวลง 7 วันทำการติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นชิปและหุ้นกลุ่มส่งออก ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อวานนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,833.27 จุด เพิ่มขึ้น 1,213.50 จุด หรือ +3.41%
หลังจากที่นิกเกอิร่วงลงกว่า 3,000 จุดในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา นิกเกอิปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่เปิดตลาดวันนี้ และบวกขึ้นอีกในช่วงบ่าย แม้นาโอกิ ทามูระ หนึ่งในกรรมการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมาให้ความเห็นว่า BOJ จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1% เป็นอย่างน้อย เพื่อหลีกความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้น
หุ้นทุกกลุ่มปิดบวก นำโดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก และกลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง
หุ้นเทคโนโลยีปิดบวกตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในสหรัฐ หลังจากที่ข้อมูลเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ของสหรัฐบ่งชี้ว่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบรายเดือน
มาโกโตะ เซนโกคุ นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นอาวุโสจากสถาบันวิจัยโตไก โตเกียว กล่าวว่า "ตลาดหุ้นฟื้นตัวหลังจากที่ผ่านพ้นเหตุการณ์เสี่ยงที่สำคัญมาได้ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับเงินเยนที่แข็งค่ามากเกินไปก็คลายตัวลงเช่นกัน ซึ่งเป็นแรงหนุนให้หุ้นกลุ่มส่งออก"
เซนโกคุยังกล่าวว่า แม้ดัชนีนิกเกอิที่ระดับราคาปัจจุบัน ประมาณ 37,000 จุดจะถือว่าถูกกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น แต่นิกเกอิมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไม่มากนัก จนกว่าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ จะผ่านช่วงการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางการเริ่มแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งผู้นำพรรครัฐบาลของญี่ปุ่นในวันนี้ เพื่อเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ โดยนักลงทุนจับตานโยบายเศรษฐกิจของผู้สมัครทั้ง 9 รายอย่างใกล้ชิด ซึ่งนับเป็นจำนวนผู้สมัครสูงสุดเป็นประวัติการณ์