ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,240.97 จุด เพิ่มขึ้น 47.03 จุด หรือ +0.57%
หุ้นกลุ่มโลหะมีค่า พุ่งขึ้น 3.2% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน หลังราคาทองคำทะยานขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนส.ค. ขณะที่เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดปรับตัวรับความเป็นไปได้ 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในสัปดาห์หน้า
หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 2.4% เนื่องจากราคาทองแดงแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์จากสัญญาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในจีน และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
หุ้นกลุ่มสร้างบ้านที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้น 1.9%
หุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม ปรับตัวขึ้น 2.5% โดยหุ้นดิอาจีโอ พุ่ง 3% หลังแบงก์ออฟอเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนและเป้าหมายราคาหุ้น
แต่หุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และไบโอเทค ร่วง 1.8% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุด
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ 3.50% ตามคาดในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) หลังจากเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง
สำหรับธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) นั้น ตลาดคาดว่า จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้