ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ (13 ก.ย.) ปรับตัวไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 36,507.10 จุด ลดลง 326.17 จุด หรือ -0.89% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,408.38 จุด เพิ่มขึ้น 167.99 จุด หรือ +0.97% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,714.77 จุด ลดลง 2.35 จุด หรือ -0.09%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ขยับลง 0.14% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.24%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มส่งออกถูกเทขายออกมา หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
คณะกรรมการ BOJ จะประชุมกันในวันพฤหัสบดีและศุกร์หน้า (19-20 ก.ย.) ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า BOJ อาจหารือเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพื่อเดินหน้าสู่การใช้นโยบายการเงินแบบปกติ
ด้านตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ และให้น้ำหนัก 27% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ส่วนตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ขณะที่รอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายตัวในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) โดยรัฐบาลจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนส.ค.ได้แก่ ราคาบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และอัตราว่างงาน