ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (13 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี, อสังหาริมทรัพย์ และเหมืองแร่ ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 515.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.87 จุด หรือ +0.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,465.25 จุด เพิ่มขึ้น 30.18 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,699.40 จุด เพิ่มขึ้น 181.01 จุด หรือ +0.98% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,273.09 จุด เพิ่มขึ้น 32.12 จุด หรือ +0.39%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้นเกือบ 1% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้น Siemens Energy และหุ้น SAP
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนส.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 1.6% มากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หนุนตลาดมากที่สุด ตามด้วยกลุ่มเหมืองแร่ที่เพิ่มขึ้น 1.3% เนื่องจากราคาทองแดงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์จากแรงซื้อก่อนวันหยุดของจีนและความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บรรดานักลงทุนในตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาสเกือบ 40% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในวันที่ 18 ก.ย.นี้
บิล ดัดลีย์ อดีตประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เขาคิดว่ามีโอกาสอย่างมากที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%