ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงในวันนี้ (17 ก.ย.) โดยดิ่งลงเกิน 2% ในช่วงสั้น ๆ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ทวีคูณขึ้นเกี่ยวกับการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มสูงขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,203.22 จุด ลดลง 378.54 จุด หรือ -1.03%
หุ้นลบนำตลาด ได้แก่ กลุ่มประกัน, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
หุ้นในภาคการเงินเป็นตัวนำการปรับตัวลงโดยรวม อันเนื่องมาจากการร่วงของผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวทั้งของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขณะที่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ถูกเทขายอย่างหนัก สอดคล้องกับการดิ่งลงของหุ้นประเภทเดียวกันในสหรัฐฯ เมื่อคืนวานนี้
หุ้นบริษัทส่งออกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเช่นกัน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินเยน แต่หุ้นเริ่มฟื้นตัวในช่วงท้ายของการซื้อขาย เมื่อนักลงทุนฉวยโอกาสช้อนซื้อหลังจากที่ดัชนีนิกเกอิร่วงต่ำกว่าระดับ 36,000 จุด
มาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank กล่าวว่า "ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงสัญญาณอ่อนแอชัดเจน แต่เฟดเลือกลดดอกเบี้ยลง 0.50% ก็อาจมองได้ว่าเป็นการแสดงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น"
ยามากูจิกล่าวว่า หากเฟดไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนในการเลือกลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.50% เพื่อขจัดความคลุมเครือเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของตน ความกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินเยนก็อาจยังคงกดดันตลาดหุ้นต่อไป