ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (17 ก.ย.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวสดใสขานรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 517.19 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด หรือ +0.40%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,487.42 จุด เพิ่มขึ้น 37.98 จุด หรือ +0.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,726.08 จุด เพิ่มขึ้น 92.97 จุด หรือ +0.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,309.86 จุด เพิ่มขึ้น 31.42 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นในยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นสเปนพุ่งขึ้น 1.1% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี
กลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นมากที่สุด 2.8% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นคิงฟิสเชอร์ ซึ่งพุ่งขึ้น 11.2% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรทั้งปี
หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ ปรับตัวขึ้น 2.2% โดยหุ้นสายการบินไรอันแอร์ พุ่ง 6.1% หลังไมเคิล โอเลียรี ซีอีโอเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า แนวโน้มการจองตั๋วเครื่องบินดีขึ้นนับตั้งแต่เดือนที่แล้ว ขณะที่ผลกำไรต่อปีมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก
บรรดานักลงทุนจับตาการตัดสินใจของเฟดในวันพุธนี้ โดย FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า มีโอกาส 61% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เมื่อเทียบกับ 34% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง มอร์แกน สแตนลีย์และดอยซ์แบงก์ยังคงคาดว่า เฟดจะเริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในวันพุธนี้
สำหรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในยุโรปนั้น ZEW ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนก.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นลดลง 3.6 จุด จากระดับ 19.2 จุดในเดือนส.ค.