ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (17 ก.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,309.86 จุด เพิ่มขึ้น 31.42 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยหุ้นคิงฟิสเชอร์ (Kingfisher) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าปรับปรุงบ้าน พุ่งขึ้นมากที่สุด 11.2% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรทั้งปี
กลุ่มค้าปลีก พุ่งขึ้น 2.8% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565
กลุ่มสินค้าส่วนบุคคล พุ่ง 2.8% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์ โดยหุ้นเบอเบอร์รี (Burberry) และหุ้นวอตเชส ออฟ สวิตเซอร์แลนด์ กรุ๊ป (Watches of Switzerland Group) ต่างก็พุ่งขึ้น 3.1%
แต่กลุ่มการบินอวกาศและการป้องกัน ร่วงลง 2.2% หลังจากมีรายงานว่า ประเทศพันธมิตรของยูเครนกำลังเริ่มหาทางที่จะเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย
บรรดานักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาสถึง 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประชุมกันในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BoE จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในวันพฤหัสบดีนี้