ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันศุกร์ (20 ก.ย.) และลดลงในรอบสัปดาห์นี้ด้วย หลังจากอังกฤษเปิดเผยข้อมูลยอดขายปลีกออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ และการแข็งค่าของเงินปอนด์อังกฤษสร้างแรงกดดันให้กับหุ้นกลุ่มส่งออก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,229.99 จุด ลดลง 98.73 จุด หรือ -1.19%
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลงวันเดียวมากที่สุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ และลดลงในรอบสัปดาห์นี้ด้วย
ยอดค้าปลีกในอังกฤษเพิ่มขึ้นมากเกินคาด 1% ในเดือนส.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้นเพียง 0.4%
ข้อมูลนี้ช่วยสนับสนุนแนวโน้มที่แข็งค่าของเงินปอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2565 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในวันพุธ ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง นำโดยกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลซึ่งร่วงลง 5%
หุ้นเบอเบอร์รี ร่วง 3.5% หลังบริษัทโบรกเกอร์เจฟเฟอรีส์ ปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้ โดยระบุถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับสินค้าหรูหรา
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่า ปรับตัวขึ้น 0.2% สวนทางตลาด หลังราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง