ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ที่แข็งแกร่ง และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 300 จุดวานนี้
ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,126.55 จุด บวก 211.80 จุด หรือ 0.51%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.0% ในไตรมาสดังกล่าว สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากมีการขยายตัวเพียง 1.4% ในไตรมาส 1/2567
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 2/2567 ที่ระดับ 2.8% และ 3.0% ตามลำดับ
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2/2567 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการลงทุนของภาคเอกชน
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 224,000 ราย
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อนสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)