ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ (1 ต.ค.) หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบร้อนปรับลดอัตราดอกเบี้ย และระบุว่าการที่คณะกรรมการเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น ไม่ควรถูกตีความเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในอนาคต
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,476.33 จุด เพิ่มขึ้น 556.78 จุด หรือ +1.47% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.88%
ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันกองทัพ
พาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐฯ (NABE) เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) โดยส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 0.50% ในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีพัฒนาการที่เป็นไปตามคาด และเฟดจะ "ไม่รีบร้อน" ดำเนินการดังกล่าว หลังมีข้อมูลใหม่ซึ่งทำให้เฟดเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. ลดลงจากระดับ 37% ก่อนที่พาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ และลดลงจากระดับ 53% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.)
นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นในวันนี้ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ระดับ 13 ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 2 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 34 ในไตรมาส 3 จากระดับ 33 ในไตรมาส 2 ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง