ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงกว่า 100 จุด หลุดแนว 42,000 จุด โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้
ณ เวลา 20.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 41,985.37 จุด ลบ 171.60 จุด หรือ 0.40%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นรับข่าวการโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอล
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ปรับตัวลง 173.18 จุด หรือ 0.41% หลังจากที่ทรุดตัวลงกว่า 300 จุดในการซื้อขายระหว่างวัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านทำการยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล
ทั้งนี้ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบทิ้งตัว (ballistic missile) มากกว่า 180 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อคืนนี้ โดยอ้างว่าเพื่อตอบโต้ต่อการที่อิสราเอลสังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และในวันศุกร์จะเป็นตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 4.2% ในเดือนก.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค.
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยในวันนี้ว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 128,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 101,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ADP เปิดเผยว่า ตัวเลขค่าจ้างเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนส.ค.