ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (7 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอ แต่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่ากดดันตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,303.62 จุด เพิ่มขึ้น 22.99 จุด หรือ +0.28%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ปรับตัวขึ้น 2% เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงทะยานขึ้นต่อจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางและภาวะชะงักงันด้านการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคดังกล่าว
หุ้นเชลล์ (Shell) พุ่งขึ้น 2.3% แม้รายงานกำไรจากการกลั่นลดลงเกือบ 30% ในไตรมาส 3 เนื่องจากความต้องการน้ำมันทั่วโลกลดลง ขณะที่ผลประกอบการจากการค้าน้ำมันอ่อนแอลงด้วย
หุ้นบีพีปรับตัวขึ้น 1.3% หลังบริษัทยกเลิกเป้าหมายที่จะลดการผลิตน้ำมันและก๊าซภายในปี 2573
หุ้นกลุ่มโลหะมีค่าร่วงลง 3.7% โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียงเล็กน้อยในเดือนพ.ย. หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ตลาดแรงงานของอังกฤษแสดงสัญญาณการชะลอตัวในเดือนก.ย. ขณะที่การขยายตัวของค่าแรงเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อขณะที่พิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่
นอกจากนี้ ราคาบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.ในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ช่วยหนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์