ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (8 ต.ค.) หลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่การแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,937.54 จุด ลดลง 395.20 จุด หรือ -1.00%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์, กลุ่มค้าส่ง และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง
นอกจากนี้ นิกเกอิยังปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยมีสาเหตุมาจากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ชี้ว่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นได้กระตุ้นให้เกิดแรงขายหุ้นส่งออก ได้แก่กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์และกลุ่มเครื่องจักร เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้ได้กำไรจากต่างประเทศน้อยลงเมื่อแลกกลับเป็นเงินเยน
ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางส่งผลกระทบต่อตลาดเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่าการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคนี้อาจหยุดชะงัก
คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ กล่าวว่า "ความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอล (ต่ออิหร่าน) ส่งผลต่อตลาด โดยเฉพาะในกรณีของญี่ปุ่น เนื่องจากอาจทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นและเพิ่มต้นทุนการผลิต" พร้อมเสริมว่า นักลงทุนจะจับตามองรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบวก
นอกจากนี้ หุ้นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่นยังได้รับแรงขายจากความกังวลเรื่องการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากมีรายงานเมื่อคืนวันจันทร์ว่า ข้อมูลลูกค้าที่เก็บไว้โดยผู้รับเหมาที่ใช้บริการโดยบริษัทประกันภัยเหล่านี้อาจถูกเข้าถึงอย่างผิดกฎหมาย