ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส และเวลส์ ฟาร์โก
ณ เวลา 20.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,633.67 จุด บวก 179.55 จุด หรือ 0.42%
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงเกินคาด
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 81.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และให้น้ำหนัก 77.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนก.ย.ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 1.8% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% หลังจากปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรืออยู่ที่ 0.0% ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.1% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.7% หลังจากปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.