ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ (16 ต.ค.) นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ร่วงลงอย่างหนักตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดปรับตัวลงเมื่อวานนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าร่วงลงมากกว่า 2% โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชิปร่วงลงตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลเรื่องความต้องการในตลาดที่ชะลอตัว นำโดยหุ้นของบริษัทโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) ที่ดิ่งลงอย่างหนักถึง 10%
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,093.46 จุด ลดลง 817.09 จุด หรือ -2.05%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,214.01 จุด เพิ่มขึ้น 12.72 จุด หรือ +0.40% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,501.77 จุด เพิ่มขึ้น 182.98 จุด หรือ +0.90%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วง 1.22% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียลบ 0.4%
นักลงทุนจะจับตาดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน โดยแถลงการณ์จากสำนักงานสารนิเทศของสภาแห่งรัฐจีน (SCIO) เมื่อวานนี้ ระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงที่อยู่อาศัยของจีนเตรียมแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีกำหนดจะแถลงนโยบายประจำปีในวันนี้ เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นการสนับสนุนเศรษฐกิจของฮ่องกงที่กำลังพยายามฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
บรรดาเทรดเดอร์ในเอเชียประเมินข้อมูลเศรษฐกิจจากภูมิภาคเอเชีย โดยนิวซีแลนด์รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของรอยเตอร์ และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.7%
ส่วนอัตราการว่างงานของเกาหลีใต้เมื่อปรับตามฤดูกาลอยู่ที่ 2.5% ในเดือนก.ย. เทียบกับ 2.4% ในเดือนส.ค.