ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่ชะงักงันในยูโรโซน และรายงานผลประกอบการจากบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 518.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด หรือ +0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,503.28 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,443.00 จุด เพิ่มขึ้น 65.38 จุด หรือ +0.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,269.38 จุด เพิ่มขึ้น 10.74 จุด หรือ +0.13%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวหลังจากติดลบ 3 วันติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ พุ่งขึ้น 3.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน ขณะที่หุ้นอีโวลูชัน (Evolution) ของสวีเดน พุ่งขึ้น 15% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นไปตามคาด
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ แอร์เมส (Hermes) ปรับตัวขึ้น 1% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นอย่างมาก และหุ้นเคอริง (Kering) เจ้าของแบรนด์กุชชี่ (Gucci) พุ่ง 2% แม้เตือนเกี่ยวกับรายได้จากการดำเนินงานในปี 2567
หุ้นกลุ่มรถยนต์ได้แรงหนุนจากหุ้นเรโนลต์ (Renault) ของฝรั่งเศสซึ่งพุ่งขึ้น 4.7% หลังเปิดเผยรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้นเกินคาด
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและสินค้าในครัวเรือนปรับตัวขึ้นเกือบ 1% โดยหุ้นยูนิลีเวอร์ (Unilever) และหุ้นดานอน (Danone) พุ่งขึ้น 2.9% และ 2.8% ตามลำดับ หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 สูงกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนชะงักงันอีกครั้งในเดือนต.ค. และยังคงหดตัวนั้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน