ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (28 ต.ค.) โดยหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แม้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันก็ตาม ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญและการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 520.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,556.94 จุด เพิ่มขึ้น 59.40 จุด หรือ +0.79%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,531.62 จุด เพิ่มขึ้น 68.03 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,285.62 จุด เพิ่มขึ้น 36.78 จุด หรือ +0.45%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงหลังจากอิหร่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและกลุ่มวัสดุปรับตัวลงด้วย ขณะที่กลุ่มสื่อนำตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการปรับตัวขึ้น โดยหุ้นสายการบินต่าง ๆ อาทิ ลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) และอีซี่เจ็ต (easyJet) ปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง ซึ่งจะเพิ่มอัตรากำไรของสายการบิน
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 และข้อมูลเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของยูโรโซนในสัปดาห์นี้ หลังข้อมูลเงินเฟ้อที่ดีขึ้นและความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อต้นเดือนนี้
ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรปและตลาดทั่วโลกยังรวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ อาทิ แอปเปิ้ล (Apple) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้
ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสส์บ่งชี้ว่า รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส มีคะแนนนำ โดนัลด์ ทรัมป์ ทั่วประเทศในอัตราส่วน 46% ต่อ 43%