ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงกว่า 100 จุด โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,216.80 จุด ลบ 170.77 จุด หรือ 0.40%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.3% ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งใช้อ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ตลาดจับตาผลประกอบการของบริษัทในกลุ่ม "Magnificent Seven" โดย 5 จาก 7 บริษัทในกลุ่มดังกล่าวจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ได้แก่ บริษัทอัลฟาเบท ไมโครซอฟท์ เมตา แอปเปิ้ล และแอมะซอน ซึ่งอัลฟาเบทจะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/67 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. โดยคาดว่าการจ้างงานในเดือนต.ค.ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนเฮลีนและมิลตันที่พัดถล่มสหรัฐ รวมทั้งการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัทโบอิ้ง, เท็กซ์ตรอน และโรงแรมฮิลตัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนต.ค.