ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (1 พ.ย.) เนื่องจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทอะเมซอนดอตคอม (Amazon.com) ได้ช่วยชดเชยการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,052.19 จุด เพิ่มขึ้น 288.73 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,728.80 จุด เพิ่มขึ้น 23.35 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,239.92 จุด เพิ่มขึ้น 144.77 จุด หรือ +0.80%
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีทั้ง 3 ตัวปิดลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.16%, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.38% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.51%
หุ้นอะเมซอนดอตคอม (Amazon.com) พุ่งขึ้น 6.2% หลังรายงานผลประกอบการเมื่อวันพฤหัสบดีบ่งชี้ถึงยอดขายปลีกที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ผลกำไรสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้
แต่หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ร่วงลง 1.2% สวนทางตลาด เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับยอดขายที่ลดลงในจีนในไตรมาสล่าสุด
ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอในเดือนต.ค. เมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคนและการประท้วง โดยข้อมูลบ่งชี้ว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้น 12,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าอย่างมากจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 113,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 4.1% ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนพ.ย.
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้น 2.4% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลงมากที่สุด
ดัชนีหุ้นกลุ่มชิปบวก 1% โดยหุ้นอินเทล (Intel) พุ่งขึ้น 7.8% หลังคาดการณ์รายได้ที่ดีกว่าคาด
หุ้นเชฟรอน (Chevron) พุ่งขึ้น 2.8% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 ที่สูงกว่าคาด เนื่องจากผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่สูสีและอาจจะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง และหลังจากนั้น เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 6-7 พ.ย.