ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (6 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์ เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงด้วยท่ามกลางความวิตกว่า ทรัมป์อาจยุติการอนุมัติครั้งใหม่สำหรับโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 506.78 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.54%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,369.61 จุด ลดลง 37.54 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,039.31 จุด ลดลง 216.96 จุด หรือ -1.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,166.68 จุด ลดลง 5.71 จุด หรือ -0.07%
ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 คะแนน โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะเก็บภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศหากเขาชนะเลือกตั้ง และกล่าวว่าสหภาพยุโรป (EU) จะต้องจ่ายภาษีอย่างมาก เนื่องจากซื้อสินค้าส่งออกจากอเมริกาไม่เพียงพอ
หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป (Mercedes-Benz Group) และบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ร่วงลงถึง 6.5% จากความกังวลเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์
หุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรปร่วงลง 2.3%
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังระบุระหว่างการหาเสียงว่า จะยกเลิกโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งด้วยคำสั่งฝ่ายบริหารในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 2.6% โดยหุ้นเออร์สเตด (Oersted) และหุ้นเวสทัส (Vestas) ต่างร่วงลง 12.8%
บริษัทส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในดัชนี STOXX 600 มีรายได้เพียง 40% จากตลาดภายในประเทศ ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่ได้มาจากสหรัฐฯ
หุ้นที่เรียกว่า "Trump Trades" ซึ่งอาจได้ประโยชน์หรือได้รับแรงกดดันจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นในวันพุธ ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความคาดหวังเรื่องการลดภาษีสำหรับบริษัทต่างๆ
ทรัมป์ถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มกลาโหมของยุโรป เนื่องจากเขาเตือนว่า สหรัฐฯ จะลดการสนับสนุนทางทหารในยุโรป และกดดันให้สมาชิกนาโต (NATO) ใช้จ่ายด้านกลาโหม 2% หรือมากกว่านั้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
ดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทด้านการบินและกลาโหมในยุโรป พุ่งขึ้น 2.1% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับหุ้นที่เคลื่อนไหวจากผลประกอบการได้แก่ หุ้นโนโว นอร์ดิสก์ (Novo Nordisk) บวก 0.6% สวนทางตลาด หลังจากรายงานยอดขายรายไตรมาสของยาลดน้ำหนัก วีโกวี (Wegovy) ที่ดีกว่าคาด
บรรดานักลงทุนจะหันไปจับตาดูการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ (7 พ.ย.)