ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือแนว 44,000 จุด ขานรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน
ณ เวลา 23.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,097.21 จุด บวก 317.87 จุด หรือ 0.73%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงเกินคาดในเดือนพ.ย. ขณะที่ลดคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 1 ปีข้างหน้า
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 73.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.0 จากระดับ 70.5 ในเดือนต.ค.
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 2.6% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.7%
นักลงทุนคาดการณ์ว่า ชัยชนะของนายทรัมป์ รวมทั้งแนวโน้มที่พรรครีพับลิกันจะกวาดเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะทำให้มาตรการต่าง ๆ ตามนโยบาย "Make America Great Again!" ของนายทรัมป์ถูกขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะนโยบายปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน และการใช้จ่ายทางการคลัง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาด
นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% วานนี้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.2568 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนมี.ค.2568
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 71.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. และให้น้ำหนัก 54.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนม.ค.2568
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 46.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.2568
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์หน้าว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวในงานเสวนาที่จัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย
ในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ นายพาวเวลได้แสดงความพึงพอใจต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ และยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้ถูกกดดันจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4/2567
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1, 3.0% ในไตรมาส 2 และ 2.8% ในไตรมาส 3