ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (11 พ.ย.) หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงมากกว่าคาดในเดือนต.ค. ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 39,417.21 จุด ลดลง 83.16 จุด หรือ -0.21% , ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,258.14 จุด ลดลง 470.05 จุด หรือ -2.26% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,432.37 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.57%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เปิดลบ 0.26% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 0.57%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดอ่อนแรงลงในวันนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่รัฐสภาญี่ปุ่นจะโหวดเลือกนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในวันนี้
จีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอลงหลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า CPI เดือนต.ค.อาจจะทรงตัวเท่ากับในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลง 2.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 25 ติดต่อกัน และปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.5%
ทั้งนี้ การที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ใกล้ระดับ 0% นั้นเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า ความต้องการภายในประเทศของจีนยังคงซบเซา แม้ว่ารัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปลายเดือนก.ย. ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มสภาพคล่องเพื่อให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการสนับสนุนตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์