ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดลบในวันนี้ (12 พ.ย.) โดยแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีก่อนการประกาศผลประกอบการของบริษัทใหญ่ได้บดบังแรงซื้อหุ้นธนาคารและหุ้นผู้ผลิตรถยนต์ที่เน้นการส่งออกซึ่งได้ประโยชน์จากเงินเยนที่อ่อนค่า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,376.09 จุด ลดลง 157.23 จุด หรือ -0.40%
หุ้นบวกได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่หุ้นลบได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดการณ์ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ค่าเงินเยนที่อ่อนตัวส่งผลให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ก่อนหน้านี้ถูกเทขายจากผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงในช่วงบ่ายเนื่องจากนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในกลุ่มเทคโนโลยี โดยรอดูผลประกอบการของบริษัทโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับผลิตชิป และซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป (SoftBank Group) ผู้ลงทุนรายใหญ่ในสตาร์ตอัปด้าน AI ซึ่งจะมีการประกาศหลังตลาดปิดทำการ
"โดยภาพรวม ผลประกอบการล่าสุดของบริษัทญี่ปุ่นยังไม่น่าประทับใจ โดยหลายบริษัทมีการเติบโตที่ซบเซา การเคลื่อนไหวของนักลงทุนสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้" มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ กล่าว
โบรกเกอร์หลายสำนักระบุว่า ความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมนี้ยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนจะดึงตัววุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ ผู้มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งสร้างความกังวลว่าการแต่งตั้งดังกล่าวอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อบริษัทผลิตชิปของญี่ปุ่นที่มีการดำเนินงานในจีน