ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนพากันขายทำกำไร หลังดัชนีพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์วานนี้
ณ เวลา 23.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,121.17 จุด ลบ 171.96 จุด หรือ 0.39%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
นายเจเรมี ซีเกล ศาสตราจารย์จาก Wharton School ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะได้รับอานิสงส์จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มากกว่าประธานาธิบดีในอดีต อันเนื่องจากนโยบายของนายทรัมป์ที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ
"ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นประธานาธิบดีที่หนุนตลาดหุ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีที่เราเคยมีมาในประวัติศาสตร์"
"คุณทรัมป์วัดความสำเร็จในการบริหารประเทศสมัยแรกของเขาจากการดูว่าตลาดหุ้นปรับตัวดีแค่ไหน ผมมองว่ามีแนวโน้มน้อยมากที่เขาจะดำเนินนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น" นายซีเกลกล่าวในรายการ Squawk Box ของสถานีข่าว CNBC
นอกจากนี้ นายซีเกลเชื่อว่านายทรัมป์จะนำมาตรการปรับลดอัตราภาษีของภาคเอกชนที่มีการใช้ในปี 2560 ในระหว่างการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของเขากลับมาใช้ หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการ
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนต.ค.ในวันพุธนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวในงานเสวนาที่จัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย
ในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพาวเวลได้แสดงความพึงพอใจต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ และยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้ถูกกดดันจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4/2567
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1, 3.0% ในไตรมาส 2 และ 2.8% ในไตรมาส 3