ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (13 พ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่านโยบายต่าง ๆ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,953.44 จุด ลดลง 422.65 จุด หรือ -1.07% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,721.58 จุด ลดลง 125.30 จุด หรือ -0.63% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,421.80 จุด ลดลง 0.17 จุด หรือ 0.01%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ร่วงลง 1.8% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวลง 0.7%
นักลงทุนเริ่มกังวลว่าการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าและการปรับลดภาษีเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับที่ให้น้ำหนัก 80% ก่อนที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง
นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในงานเสวนาที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด