ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (15 พ.ย.) หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันนักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นซึ่งมีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,842.13 จุด เพิ่มขึ้น 306.43 จุด หรือ +0.80% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,486.97 จุด เพิ่มขึ้น 51.16 จุด หรือ +0.26% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,367.94 จุด ลดลง 11.90 จุด หรือ -0.35%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 0.45% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดีดตัวขึ้น 0.42%
พาวเวลได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้เฟดไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยช่วงเช้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.9% ในไตรมาส 3/2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกันสองไตรมาส และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.7% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8% และแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย. ที่เพิ่มขึ้นเพียง 3.2% สะท้อนให้เห็นว่าการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นปัจจัยหนุนภาคส่วนที่สำคัญ
อย่างไรก็ดี การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5.6% ส่วนการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเดือนม.ค. - ต.ค. ลดลง 10.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าในช่วงเดือนม.ค. - ก.ย.ที่ลดลง 10.1%