ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (18 พ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,259.59 จุด ลดลง 383.32 จุด หรือ -1% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,344.69 จุด เพิ่มขึ้น 13.96 จุด หรือ +0.42% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,595.50 จุด เพิ่มขึ้น 169.16 จุด หรือ +0.87%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดลบ 0.33% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 1.06% โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อหุ้นคืน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ย.) ว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 2.85% ในเดือนต.ค. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 1.98%
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะยุติวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี 2568 นอกจากนี้ ยังทำให้นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
นักลงทุนจับตาการแถลงข่าวของคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไปของ BOJ หลังจากเจ้าหน้าที่หลายรายได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของธนาคารกลางจีนในวันพุธนี้ (20 พ.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์ของ LNG คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีเอาไว้ที่ระดับ 3.1% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 3.6% ในวันพุธนี้