ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (19 พ.ย.) หลังการซื้อขายผันผวน ขณะที่นักลงทุนเลี่ยงการลงทุนลอตใหญ่ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษ และจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐเกี่ยวกับยูเครน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,099.02 จุด ลดลง 10.30 จุด หรือ -0.13%
สินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำและดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น หลังรัสเซียปรับหลักการนิวเคลียร์ (nuclear doctrine) โดยลดเกณฑ์ในการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ยูเครนเปิดเผยว่าได้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐเป็นครั้งแรกในการโจมตีรัสเซีย
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลร่วงลง 2.7% โดยหุ้นเบอร์เบอรี (Burberry) ร่วง 4.7%
หุ้นมัลเบอร์รี กรุ๊ป (Mulberry Group) ร่วง 11% หลังรายงานผลประกอบการขาดทุนในครึ่งปีแรกมากกว่าปีที่ผ่านมา และกำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน และปรับปรุงผลกำไรภายใต้แอนเดรีย บัลโด ซีอีโอคนใหม่
โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ระดับดัชนี FTSE 100 ในปีหน้าลงสู่ระดับ 8,500 จุด จากระดับ 8,800 จุด ขณะที่ยูบีเอสปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นอังกฤษ
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษในวันพุธนี้ หลังแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงภาษีในงบประมาณของรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อ
ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่า BoE จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมเดือนธ.ค. เนื่องจากมีความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก